Google  จับมือกรุงเทพมหานคร ร่วมสนับสนุนการลดช่องว่างดิจิทัลในภาคการศึกษา ต่อยอดก้าวสู่ห้องเรียนดิจิทัลอย่างยั่งยืน

กรุงเทพมหานคร ผนึกกำลัง Google ประเทศไทย หอการค้าอเมริกันในประเทศไทย และภาคเอกชน เพื่อร่วมสนับสนุนการลดช่องว่างดิจิทัลในภาคการศึกษา ต่อยอดก้าวสู่การเป็นห้องเรียนดิจิทัลด้วยกระบวนการที่ยั่งยืนสำหรับโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ด้วยการรวบรวมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เก่าที่ได้รับการบริจาคมาจากองค์กรต่างๆ โดยหอการค้าอเมริกันในประเทศไทยเป็นตัวแทนในการประกาศรับบริจาคจากสมาชิกของหอการค้าฯ และ Google รับหน้าที่ในการใช้พลังของระบบปฏิบัติการ ChromeOS Flex เพื่อแปลงโฉมคอมพิวเตอร์เก่าเหล่านั้นให้กลายเป็นอุปกรณ์ที่มีความรวดเร็วและปลอดภัย รวมทั้งจะทำการฝึกอบรมฟรีให้แก่ทุกโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 

โดยคาดว่าภายใน 4 ปีข้างหน้า จะได้รับบริจาคคอมพิวเตอร์เก่าจำนวน 130,000 เครื่อง เพื่อนำมาช่วยสร้างการเรียนรู้แบบ Active Learning ให้กับนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาที่ 4 – ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทุกคน ซึ่งครอบคลุมถึง 437 โรงเรียน  

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “การพัฒนาคุณภาพการศึกษาและสาธารณสุข เป็นสองมิติที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในกรุงเทพมหานคร ซึ่งโครงการรับบริจาคคอมพิวเตอร์จากประชาชนและภาคเอกชนมาเป็นคอมพิวเตอร์สำหรับการเรียนรู้ของเด็กๆ ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครนั้น  นับเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์แก่ทั้งผู้รับและผู้ให้ ที่นอกจากผู้บริจาคจะได้ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ในองค์กรจากคอมพิวเตอร์เก่าที่มีอายุการใช้งานเกิน 3-5 ปีแล้ว ยังสามารถส่งต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นมาปรับใช้ใหม่ให้มีจำนวนเพียงพอแก่นักเรียนเพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือการเรียนรู้ในทุกวิชา และครูก็สามารถจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้น พร้อมส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ทักษะดิจิทัลและสามารถนำไปต่อยอดการทำงานในอนาคตได้อีกด้วย 

ในวันนี้ กรุงเทพมหานครจึงร่วมมือกับ Google และหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย เพื่อต่อยอดความฝันของเราด้วยการเชิญชวนให้ประชาชนและองค์กรภาคเอกชนต่างๆ มาร่วมกันบริจาคคอมพิวเตอร์เก่าเพื่อนำกลับมาใช้ในการศึกษา ซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่า เพื่อบรรลุสู่เป้าหมายทั้งด้านความยั่งยืนทางดิจิทัล (digital sustainability) และช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างยั่งยืนด้วย” 

อรกัญญา พิบูลธรรม ประธานหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย กล่าวว่า “นับตั้งแต่ที่หอการค้าอเมริกันในประเทศไทยก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2499 การศึกษาก็เป็นสิ่งหนึ่งที่หอการค้าฯ ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา หอการค้าฯ ได้มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนนักศึกษาทั่วประเทศไทยแล้วกว่า 3,100 ทุน ให้การสนับสนุนสถาบันการศึกษากว่า 860 แห่ง และมอบเงินทุนสนับสนุนด้านการศึกษารวมเป็นจำนวนกว่า 190 ล้านบาท เนื่องด้วยหอการค้าฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมแห่งการเรียนรู้และต้องการช่วยส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียนนักศึกษาที่ด้อยโอกาส เราจึงมุ่งมั่นให้การสนับสนุนโครงการห้องเรียนดิจิทัลของ กทม. อย่างเต็มที่ โดยจะช่วยประชาสัมพันธ์โครงการนี้ในหมู่นักธุรกิจชาวต่างชาติ และร่วมมือกับสมาชิกของหอการค้าฯ เพื่อให้บรรลุตามวิสัยทัศน์และเป้าหมายที่คุณชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม. ตั้งไว้” 

ไมค์ จิตติวาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดด้านแบรนด์ Google ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “Google ให้ความสำคัญด้านการศึกษาและการเข้าถึงดิจิทัลอย่างเท่าเทียมของคนไทยเป็นอันดับต้นๆ สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทย นับตั้งแต่การเปิดตัวโครงการ Be Internet Awesome เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา  เราได้ทำการฝึกอบรมครูและนักเรียนไปแล้วกว่า 3.4 ล้านคน รวมทั้งได้ริเริ่มนำ ChromeOS Flex มาใช้ในพื้นที่การศึกษาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่วนความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นพันธกิจที่เรากระตือรือร้นในการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องจากโครงการ Be Internet Awesome โดย Google จะนำ ChromeOs Flex ที่เป็นเวอร์ชันหนึ่งของระบบปฏิบัติการ Chrome ที่มีความรวดเร็ว ปลอดภัย และทำงานบนระบบคลาวด์เป็นหลัก มาปรับปรุงคอมพิวเตอร์เก่าๆ ให้ทันสมัยยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน เพื่อช่วยให้การเรียนการสอนมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในการดาวน์โหลด และสามารถใช้ควบคู่ไปกับ Chromebook ที่มีใช้อยู่แล้วอย่างสะดวกสบาย”

สำหรับโครงการความร่วมมือในวันนี้นับเป็นความมุ่งมั่นของ Google ประเทศไทย ภายใต้พันธกิจ Leave No Thai Behind ที่ตอกย้ำการสนับสนุนด้านการศึกษาและการลดช่องว่างดิจิทัลเพื่อให้คนไทยเข้าถึงโอกาสที่มาพร้อมกับอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มที่ สำหรับประชาชนทั่วไปหรือองค์กรที่ประสงค์จะร่วมบริจาคคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://digitalclassroom.bangkok.go.th/